ประเภทและรูปแบบของ Blacklink

ในโลกของการทำ SEO (Search Engine Optimization) นั้น หาก “คีย์เวิร์ด” คือเข็มทิศที่ชี้ทิศทางให้ Google เข้าใจว่าเนื้อหาของคุณเกี่ยวกับอะไร “Backlink” คือตัวแปรสำคัญที่กำหนดว่า Google จะ เชื่อถือ และ จัดอันดับ เนื้อหาของคุณให้อยู่ในตำแหน่งใด Backlink หรือ ลิงก์ย้อนกลับ เปรียบเสมือนคะแนนเสียงจากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่ลงคะแนนให้เว็บไซต์ของคุณ โดยส่งสัญญาณว่าเนื้อหาของคุณมีคุณภาพ, เป็นประโยชน์, และน่าเชื่อถือ

การทำความเข้าใจประเภทและรูปแบบของ Backlink จึงไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็น กลยุทธ์หลัก ที่จะนำพาเว็บไซต์ของคุณไปสู่จุดสูงสุดของหน้าผลการค้นหา (SERP) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่ Google ให้ความสำคัญกับคุณภาพของลิงก์มากกว่าปริมาณ

 

ทำความรู้จัก Backlink: การส่งต่อ “อำนาจ” และ “ความน่าเชื่อถือ”

Backlink คือลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์ภายนอก และชี้กลับมายังเว็บไซต์ของคุณ มันเป็นกลไกสำคัญที่ Search Engine ใช้ในการวัดค่า Authority (อำนาจ) และ Trust (ความน่าเชื่อถือ) ของเว็บไซต์

 

A. Backlink กับ PageRank: แนวคิดพื้นฐาน

แนวคิดเรื่อง Backlink มีต้นกำเนิดมาจากอัลกอริทึม PageRank ของ Google ซึ่งเปรียบเสมือนการลงคะแนนเสียง ยิ่งเว็บไซต์ที่มี Authority สูงลิงก์มายังคุณมากเท่าไหร่ คะแนน PageRank ของคุณก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย แม้ว่า Google จะไม่ได้เปิดเผยค่า PageRank แบบสาธารณะแล้ว แต่นักการตลาด SEO ทราบดีว่าหลักการพื้นฐานยังคงอยู่: ลิงก์คุณภาพสูงส่งผลต่ออันดับ

 

B. ความแตกต่างของ Backlink: คุณภาพ vs. ปริมาณ

ในอดีต การสร้าง Backlink จำนวนมากโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพอาจช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับได้ แต่ปัจจุบัน Google ได้มีการอัปเดตอัลกอริทึมอย่างต่อเนื่อง (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Panda และ Penguin) เพื่อต่อสู้กับ Spamming และเน้นย้ำว่า:

  • Backlink คุณภาพสูง (High-Quality Backlink): มาจากเว็บไซต์ที่มี Authority สูง, เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของคุณ, และถูกวางไว้อย่างเป็นธรรมชาติ จะมีมูลค่ามหาศาล
  • Backlink คุณภาพต่ำ (Low-Quality Backlink): มาจากเว็บไซต์สแปม, ฟอรัมที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง, หรือการซื้อขายลิงก์ จะเป็นอันตรายต่อเว็บไซต์และอาจนำไปสู่การถูกลงโทษ (Penalty) ได้

 

ประเภทหลักของ Backlink: DoFollow vs. NoFollow

Backlink ถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักตาม Attribute (คุณสมบัติ) ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์กำหนด ซึ่งมีผลต่อการส่งผ่าน “คะแนน” หรือ “น้ำหนัก” ไปยังเว็บไซต์ของคุณ

 

A. DoFollow Backlink (ลิงก์ส่งต่อพลัง)

  • ลักษณะ: เป็นค่าเริ่มต้นของลิงก์ทั้งหมด หากไม่มีการระบุ Attribute อื่น ๆ Google จะถือว่าเป็น DoFollow
  • บทบาท: เมื่อ Google Bot (โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของ Google) คลาน (Crawl) มายังลิงก์นี้ มันจะ ส่งต่อ PageRank (Link Juice) หรือคะแนนความน่าเชื่อถือไปยังเว็บไซต์ปลายทาง (เว็บไซต์ของคุณ)
  • ความสำคัญ: นี่คือ Backlink ที่มีค่าและเป็นเป้าหมายหลักในการทำ Link Building เพราะเป็นลิงก์ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออันดับ SEO

 

B. NoFollow Backlink (ลิงก์ไม่ส่งต่อพลัง)

  • ลักษณะ: มี Attribute กำหนดไว้ เช่น <a href="yourwebsite.com" rel="nofollow">Anchor Text</a>
  • บทบาท: เดิมที Google ระบุว่าจะ ไม่ส่งต่อ PageRank ผ่านลิงก์ประเภทนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้กับลิงก์ที่มาจากส่วนความคิดเห็น, ฟอรัม, โฆษณา, หรือลิงก์ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่ต้องการรับประกันคุณภาพ
  • สถานะปัจจุบัน: ในปี 2019 Google ได้เปลี่ยนสถานะของ NoFollow จาก “คำสั่งที่ไม่ต้องทำตาม” เป็น “คำแนะนำ” (Hint) ซึ่งหมายความว่า Google อาจจะ พิจารณาใช้ลิงก์ NoFollow ในการจัดอันดับหรือไม่ก็ได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว มูลค่าในการส่งต่อ Authority ยังคงต่ำกว่า DoFollow มาก
  • ความสำคัญเชิงกลยุทธ์: ถึงแม้จะไม่ส่งต่อ PageRank โดยตรง แต่ NoFollow Link ก็ยังมีความสำคัญต่อ Traffic และ การรับรู้ถึงแบรนด์ (Brand Awareness) และยังช่วยให้ Profile Link ของคุณดูเป็นธรรมชาติ (Natural Link Profile)

 

รูปแบบ Backlink ที่หลากหลาย: จำแนกตามแหล่งที่มา

นอกเหนือจากการแบ่งตาม Attribute แล้ว Backlink ยังสามารถจำแนกตามแหล่งที่มา ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพและความน่าเชื่อถือที่แตกต่างกัน

 

A. ลิงก์จากเนื้อหา (Editorial/Contextual Backlinks)

  • ลักษณะ: เป็นลิงก์ที่ถูกวางไว้อย่างเป็นธรรมชาติใน เนื้อหาหลัก ของบทความบนเว็บไซต์อื่น
  • มูลค่า: สูงที่สุด ในบรรดารูปแบบทั้งหมด เพราะมันเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเว็บไซต์นั้นกล่าวถึงคุณเนื่องจากเนื้อหาของคุณมีความเกี่ยวข้องและเป็นแหล่งอ้างอิงที่ดี
  • กลยุทธ์: การทำ Guest Posting, การทำ Broken Link Building, หรือการสร้างเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมจนคนอยากลิงก์ถึง (Link Bait Content)

 

B. ลิงก์จากแหล่งข้อมูล/สารบบธุรกิจ (Citations/Directory Backlinks)

  • ลักษณะ: ลิงก์ที่ได้จากการลงทะเบียนข้อมูลธุรกิจในสารบบออนไลน์ (Directories) เช่น Yelp, Yellow Pages, หรือ Google Business Profile (GBP)
  • มูลค่า: ปานกลางถึงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Local Citations (การกล่าวถึงชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์ – NAP) ซึ่งมีความสำคัญต่อ Local SEO อย่างมาก Citations เหล่านี้ช่วยยืนยันความมีอยู่จริงและความน่าเชื่อถือของธุรกิจ
  • ข้อควรระวัง: ควรเลือกเฉพาะ Directory ที่มีชื่อเสียงและมีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเท่านั้น

 

C. ลิงก์จากส่วนความคิดเห็นและฟอรัม (Comment & Forum Backlinks)

  • ลักษณะ: ลิงก์ที่ฝังอยู่ในช่องแสดงความคิดเห็นของบล็อก หรือในลายเซ็น (Signature) บนเว็บบอร์ดหรือฟอรัม
  • มูลค่า: ต่ำมาก มักจะเป็น NoFollow และถูก Google มองว่าเป็นลิงก์คุณภาพต่ำหรือ Spamming ได้ง่าย
  • กลยุทธ์: ควรใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้าง Traffic และ Brand Awareness เท่านั้น ห้ามใช้เพื่อหวังผล SEO

 

D. ลิงก์จากการประชาสัมพันธ์ (Press Release & Distribution Backlinks)

  • ลักษณะ: ลิงก์ที่ได้จากการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ News Distribution Service ต่าง ๆ
  • มูลค่า: มักจะเป็น NoFollow หรือมาจากเว็บไซต์ที่มี Authority ต่ำ การใช้บริการเหล่านี้เพื่อหวังผล SEO โดยตรงถือเป็นกลยุทธ์ที่ล้าสมัยแล้ว
  • กลยุทธ์: ใช้เพื่อเผยแพร่ข่าวสารและสร้างการรับรู้ ไม่ใช่เพื่อสร้าง Link Juice

 

E. ลิงก์จาก Widget และ Footer (Sitewide Backlinks)

  • ลักษณะ: ลิงก์ที่ปรากฏในส่วนท้าย (Footer) หรือแถบข้าง (Sidebar) ซึ่งปรากฏบน ทุกหน้า ของเว็บไซต์ที่ลิงก์มา
  • มูลค่า: เดิมมีมูลค่าสูง แต่ปัจจุบัน Google มีความสามารถในการลดทอนมูลค่าของลิงก์ที่ปรากฏซ้ำ ๆ บนทุกหน้าของเว็บไซต์ หากไม่มีความเกี่ยวข้องอย่างชัดเจน อาจถูกมองว่าเป็นการซื้อขายลิงก์
  • ข้อควรระวัง: ควรหลีกเลี่ยงการซื้อขายลิงก์ในรูปแบบนี้โดยเด็ดขาด

 

Anchor Text: ข้อความสำคัญที่กำหนดความเกี่ยวข้อง

Anchor Text คือข้อความที่สามารถคลิกได้ซึ่งซ่อนลิงก์อยู่ (เช่น คลิกที่นี่ เพื่ออ่านบทความ) Anchor Text คือสัญญาณสำคัญที่บอก Google ว่าเว็บไซต์ปลายทาง (เว็บไซต์ของคุณ) เกี่ยวข้องกับหัวข้อใด

 

A. ประเภทของ Anchor Text

  1. Exact Match (ตรงเป้าหมาย): ใช้คีย์เวิร์ดเป้าหมายตรง ๆ (เช่น วิธีทำ SEO)
  2. Partial Match (ตรงบางส่วน): ใช้คีย์เวิร์ดเป้าหมายร่วมกับคำอื่น ๆ (เช่น คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับวิธีทำ SEO)
  3. Branded (ชื่อแบรนด์): ใช้ชื่อแบรนด์หรือชื่อเว็บไซต์ (เช่น Google, Ahrefs, [ชื่อเว็บไซต์ของคุณ])
  4. Generic (ทั่วไป): ใช้คำที่ไม่เฉพาะเจาะจง (เช่น คลิกที่นี่, อ่านเพิ่มเติม, ที่มา)
  5. Naked Link (ลิงก์เปลือย): ใช้ URL เป็นข้อความ (เช่น https://www.example.com)

 

B. การสร้างความหลากหลายของ Anchor Text (Natural Diversity)

  • การใช้ Exact Match มากเกินไปถือเป็นอันตราย! หาก Profile Link ของคุณมีลิงก์ที่ใช้ Exact Match Keyword มากเกินไป Google จะมองว่าคุณกำลังพยายาม บิดเบือนอัลกอริทึม (Manipulative) และอาจถูกลงโทษ
  • กลยุทธ์ที่ถูกต้อง: Profile Link ที่ดีควรมีความหลากหลายของ Anchor Text โดยเน้นไปที่ Branded และ Partial Match เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ และใช้ Exact Match เพียงเล็กน้อยเพื่อเสริมความเกี่ยวข้องเท่านั้น

 

กลยุทธ์การสร้าง Backlink คุณภาพสูง (White-Hat Link Building)

การสร้าง Backlink ที่มีประสิทธิภาพต้องอยู่บนหลักการของการให้ คุณค่า และการได้มาซึ่งลิงก์อย่างเป็นธรรมชาติ

  1. การสร้างเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม (Link Bait Content): เนื้อหาที่ลึก, เป็นต้นฉบับ, มีข้อมูลเชิงสถิติ, และเป็นประโยชน์สูง (เช่น Infographics, งานวิจัยต้นฉบับ, คู่มือเชิงลึก) จะกระตุ้นให้เว็บไซต์อื่นอยากลิงก์มาเองตามธรรมชาติ
  2. Guest Posting (การเขียนบทความรับเชิญ): การเขียนบทความที่มีคุณภาพเพื่อเผยแพร่บนเว็บไซต์ Authority อื่น ๆ ในอุตสาหกรรมของคุณ โดยได้รับลิงก์กลับมายังเว็บไซต์ของคุณในเนื้อหา (ต้องเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้องเท่านั้น)
  3. Broken Link Building: ค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องที่มีลิงก์เสีย (Broken Links) และติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์เพื่อเสนอเนื้อหาของคุณไปแทนที่ลิงก์ที่เสียนั้น
  4. Skyscraper Technique: ค้นหาเนื้อหาที่ติดอันดับดีที่สุดในอุตสาหกรรมของคุณ แล้วสร้างเนื้อหาที่ ดีกว่า (ยาวกว่า, อัปเดตกว่า, ลึกกว่า) จากนั้นติดต่อเว็บไซต์ที่เคยลิงก์ไปยังเนื้อหาเดิมเพื่อนำเสนอเนื้อหาที่เหนือกว่าของคุณ
  5. Digital PR & Mentions: ติดต่อสื่อ, บล็อกเกอร์, หรือ Influencers ในอุตสาหกรรม เมื่อพวกเขาพูดถึงแบรนด์ของคุณ แต่ไม่ได้ใส่ลิงก์กลับมา (Unlinked Mentions) ให้ติดต่อเพื่อขอให้พวกเขาสร้างลิงก์ (Link Acquisition)

 

บทสรุป: Backlink คือความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์

Backlink ไม่ใช่แค่ลิงก์ แต่คือหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเว็บไซต์ของคุณได้รับการยอมรับจากเว็บไซต์อื่น ๆ การทำความเข้าใจประเภทและรูปแบบของ Backlink ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อให้คุณสร้างลิงก์จำนวนมาก แต่เพื่อให้คุณ มุ่งเน้นสร้างลิงก์ที่มาจากแหล่งที่มีคุณภาพและมีความเกี่ยวข้องสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง DoFollow Link ที่มาจากเนื้อหาหลักและมี Anchor Text ที่หลากหลาย

การสร้าง Profile Link ที่แข็งแกร่งและเป็นธรรมชาติ คือการสร้าง ความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ ที่ต้องอาศัยความอดทน, ความคิดสร้างสรรค์, และการให้คุณค่าอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำ SEO ที่ยั่งยืนและประสบความสำเร็จ